【แจกฟรี】จาก 7,000 บาท สู่ 2.5 ล้านบาท!EA กลยุทธ์กริดแบบกระจายความเสี่ยง │ ทำกำไรด้วยระบบเทรดอัตโนมัติ

เมื่อคุณเริ่มต้นเทรด Forex คุณเองก็คงเคยมีความหวังว่า “นี่อาจเป็นทางที่ทำให้ผมมีอิสระก็ได้” แต่ในความเป็นจริง… กลับไม่เป็นอย่างที่คิด

คุณอาจเคยรู้สึกว่า ไม่ว่าจะพยายามแค่ไหนก็ชนะไม่ค่อยได้ จ้องกราฟทั้งวัน ขาดทุนสะสมเพราะไม่กล้าคัทลอส สุดท้ายก็เพิ่มลอตเพื่อหวังเอาคืน แล้วก็ยิ่งเสียหนักกว่าเดิม

คุณเคยเจอแบบนี้ไหม?
การเทรดแบบแมนนวล (เทรดด้วยตัวเอง) แม้จะดูมีเสน่ห์ เพราะเป็นรายได้ที่เราสร้างเอง แต่มันก็เต็มไปด้วยความกดดันที่มองไม่เห็น ทั้งการควบคุมอารมณ์ และการแข่งขันกับเวลา

ผมเองก็เคยเป็นแบบนั้นครับ ถึงจะศึกษาวิธีเทรดมากขึ้น แต่ผลลัพธ์ก็ไม่คงที่ จนรู้สึกเหนื่อยกับชีวิตที่ต้อง “ผูกติดอยู่กับกราฟ”

จนในที่สุด ผมก็ตัดสินใจสร้าง EA เทรดอัตโนมัติ ที่ตัวเอง “อยากใช้จริง” ขึ้นมาด้วยตัวเอง นั่นก็คือ NyaGrid

ผมออกแบบมันมาเพื่อให้ระบบเทรดทำงานอัตโนมัติ 100% ลดการตัดสินใจที่อันตราย ลดความผันผวนทางอารมณ์ และสะสมกำไรอย่างมั่นคงทีละน้อย ด้วยหลักการที่ชัดเจน

ในบทความนี้ เราจะอธิบายให้เข้าใจง่ายสำหรับมือใหม่ พร้อมเปิดเผยผลลัพธ์จริงของการใช้งาน ว่า EA ที่ชื่อว่า “NyaGrid” ใช้กลยุทธ์อะไรในการทำงาน และสามารถทำกำไรได้จริงแค่ไหน

1.“หาเงินแบบไม่ต้องเหนื่อย” คืออะไร? รู้จักกับ EA ‘NyaGrid’

การเทรดควรจะเป็น เครื่องมือในการสร้างรายได้ แต่คุณเคยรู้สึกไหมว่า… อยู่ดีๆ มันกลายเป็นความกดดันว่า “ต้องชนะให้ได้” จนทำให้สภาพจิตใจของคุณค่อยๆ เหนื่อยล้าในแต่ละวัน?

• เปิดออร์เดอร์แล้วนอนไม่หลับ
• ออกไปข้างนอกก็เอาแต่เช็กกราฟในมือถือ
• พลาดแค่ครั้งเดียว แล้วพยายามเอาคืน สุดท้ายขาดทุนหนักกว่าเดิม

ความเครียดและการขาดทุนที่สะสมแบบนี้ อาจทำให้คุณรู้สึกว่า Forex เป็นสิ่งที่ “ทำต่อไปไม่ได้” ถ้าอย่างนั้น… ทำไมไม่เลือกวิธีที่ตัดอารมณ์ออกไปตั้งแต่แรก? เพราะหนึ่งในคำตอบที่ฉลาดก็คือ EA (ระบบเทรดอัตโนมัติ)

1-1.EA (ระบบเทรดอัตโนมัติ) คืออะไร?เครื่องมือที่ช่วยให้คุณเทรดได้อัตโนมัติ 24 ชั่วโมง

EA (Expert Advisor) คือ โปรแกรมเทรดอัตโนมัติ ที่ทำงานบนแพลตฟอร์มเทรดอย่าง MT4 หรือ MT5 โดยจะทำการซื้อขายตามกฎที่ตั้งไว้ล่วงหน้า เป็นเครื่องมือที่ช่วยเปิด–ปิดออร์เดอร์แทนมนุษย์แบบอัตโนมัติ

EA ที่ทำงานตามโปรแกรมโดยไม่ใช้การตัดสินใจของมนุษย์ จะทำการเทรดอย่างสม่ำเสมอตามเงื่อนไขที่ตั้งไว้ ซึ่งช่วยลดความผิดพลาดจาก ความผันผวนทางอารมณ์ จึงแตกต่างจากการเทรดแบบแมนนวลอย่างสิ้นเชิง

NyaGrid ที่เรานำเสนอในครั้งนี้ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับมือใหม่ในตลาด Forex หรือผู้ที่เคยพลาดจากการเทรดแบบแมนนวลมาแล้วหลายครั้ง เป็นเครื่องมือที่ออกแบบมาให้สามารถทำกำไรได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่ต้องฝืนตัวเอง

1-2. NyaGrid คือเครื่องมือที่ผู้เริ่มต้นก็ใช้งานได้ เพื่อสะสมกำไรอย่างต่อเนื่อง

เมื่อได้ยินคำว่า “การเทรดอัตโนมัติ” บางคนอาจคิดว่าจำเป็นต้องมีความรู้การเขียนโปรแกรมที่ซับซ้อน หรือเป็นเครื่องมือพิเศษที่ใช้ได้เฉพาะมืออาชีพเท่านั้น

แต่ NyaGrid ถูกออกแบบมาอย่างตั้งใจ เพื่อให้สามารถใช้งานได้ แม้จะมีความรู้เกี่ยวกับ Forex เพียงเล็กน้อย และไม่ต้องให้ผู้ใช้ตัดสินใจในเรื่องที่ซับซ้อน ดังนั้นแม้แต่ผู้เริ่มต้นแบบไม่มีประสบการณ์เลย ก็สามารถใช้งานได้อย่างไม่มีปัญหา

NyaGrid เป็นเครื่องมือเทรดอัตโนมัติ ที่เหมาะมากสำหรับคนที่ “ไม่อยากยุ่งกับอะไรซับซ้อน แต่ก็อยากให้เงินงอกเงย” และจุดเด่นสำคัญคือ แตกต่างจากการเทรดแบบแมนนวล เพราะไม่ต้องพึ่งอารมณ์หรือสภาพจิตใจในการตัดสินใจเลย

1-3. 3จุดแข็งและข้อดีของการเทรดด้วย EA (ระบบเทรดอัตโนมัติ)

การเทรดแบบแมนนวล มักจะทำให้เราต้องเผชิญกับหลายปัจจัย ทั้งการเสียเวลาต้องเฝ้ากราฟ ความผันผวนทางอารมณ์ที่นำไปสู่การตัดสินใจผิดพลาด หรือแม้แต่ความพยายามเอาคืนหลังจากขาดทุน ซึ่งอาจทำให้ยิ่งเสียเงินมากขึ้นโดยไม่จำเป็น ทั้งหมดนี้ทำให้การเทรดแบบแมนนวล ตกอยู่ภายใต้การควบคุมของอารมณ์และเวลา

ในทางกลับกัน ระบบเทรดอัตโนมัติ (EA)

ซึ่งทั้งหมดนี้คือจุดแข็งของระบบเทรดอัตโนมัติ

จุดแข็งข้อที่ 1 : ไม่มีอารมณ์มาเกี่ยวข้องเลย

ในการเทรดแบบแมนนวล ศัตรูตัวฉกาจที่สุดก็คือ “อารมณ์ที่ไม่มั่นคง” เรียกได้ว่า นักเทรดที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่ ล้วนผ่านการฝึกควบคุมอารมณ์อย่างหนักมาแล้วทั้งนั้น

แต่ถ้าใช้ EA ทุกอย่างจะเป็นระบบ ไม่ว่าจะเปิดออร์เดอร์ ปิดทำกำไร หรือคัทลอส ก็ทำโดยไม่มีอารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้องเลย ไม่มีการ “เทหมดหน้าตัก” หลังจากขาดทุน ไม่มีการ “ลั่นลอต” เพราะกำไรติดกัน ไม่มีการถือออร์เดอร์ลบไว้นาน ๆ จนขยับตัวไม่ได้

ทั้งหมดนี้คือความผิดพลาดที่เกิดจาก “ความเป็นมนุษย์” และ EA สามารถช่วยป้องกันได้ตั้งแต่ต้นทาง

จุดแข็งข้อที่ 2 : ไม่ต้องเฝ้ากราฟทั้งวัน

การเทรดแบบแมนนวล หลายคนต้องใช้เวลาทั้งวันนั่งดูกราฟ　เพื่อหาจุดเข้าออร์เดอร์ที่ดีที่สุด

แต่ถ้าใช้ EA คุณไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้นเลย เพียงแค่ตั้งค่าให้เรียบร้อย ระบบก็จะเทรดให้อัตโนมัติตลอด 24 ชั่วโมง แม้จะมีงานยุ่ง ไม่มีเวลาดูหน้าจอ คุณก็สามารถบริหารเงินและสร้างรายได้ไปพร้อมกันได้

นอกจากนี้ EA ยังช่วยลดความกดดันจากความรู้สึกว่า “ถ้าไม่อยู่หน้าจอ อาจพลาดโอกาสสำคัญ” ได้อีกด้วย

จุดแข็งข้อที่ 3 : ระบบไม่หลุดกรอบ ช่วยให้บริหารต่อเนื่องได้

การเทรดแบบแมนนวล มักมีปัญหาเรื่อง “หลุดแผน” หลายครั้งที่เราตัดสินใจตามอารมณ์ในตอนนั้น แล้วทำลายกฎที่วางไว้เอง สุดท้ายก็ไม่สามารถสร้างรายได้อย่างต่อเนื่องได้

แต่ EA จะเทรดตามกฎที่ตั้งไว้ล่วงหน้าอย่างเคร่งครัด จุดแข็งของ EA คือการทำตามรูปแบบที่มีโอกาสชนะสูง ซ้ำแล้วซ้ำอีก ซึ่งเป็นแนวทางที่เรียบง่ายที่สุด และสามารถทำซ้ำได้จริง

ไม่ใช่เรื่องของ “อะไรดีกว่า” ระหว่างการเทรดแบบแมนนวลกับ EA

สิ่งที่สำคัญจริง ๆ คือ “คุณสามารถทำต่อเนื่องได้หรือไม่”

• ไม่ถูกควบคุมด้วยอารมณ์
• ไม่ต้องวิ่งแข่งกับเวลา
• รักษาความสม่ำเสมอในการเทรดได้

ถ้าคุณรู้สึกว่าองค์ประกอบเหล่านี้น่าสนใจ มีความเป็นไปได้สูงว่า EA อาจเหมาะกับคุณมากกว่าการเทรดแบบแมนนวล

1-4. จากผลการทดสอบย้อนหลัง (Backtest) ในช่วงเวลา 10 ปี
เงินลงทุน 70,000 บาท เติบโตเป็น 23,300,000 บาท

จากการทดสอบย้อนหลังจริง เริ่มต้นด้วยเงินทุน $1,920 (ประมาณ 70,000 บาท) และในระยะเวลา 10 ปี สามารถทำยอดเงินรวมสุดท้ายได้มากกว่า $640,000 (ประมาณ 23,300,000 บาท) (ดูกราฟด้านล่างประกอบ)

สิ่งนี้เป็นผลลัพธ์จาก พลังของดอกเบี้ยทบต้น (ดูรายละเอียดด้านล่าง) ร่วมกับ กลยุทธ์ไดมอนด์อันเป็นเอกลักษณ์ของ NyaGrid ซึ่งเน้นการปรับคำสั่งซื้อขายให้เหมาะสมตามการกระจายของช่วงราคา

สิ่งสำคัญคือ นี่ไม่ใช่แค่ทฤษฎีบนกระดาษเท่านั้น

• กลยุทธ์ตามช่วงราคาที่ชัดเจน
• การบริหารแบบดอกเบี้ยทบต้น
• ใช้บัญชี Ultra Low ที่ไม่มีสวอปติดลบ

แน่นอนว่า ตลาดมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา จึงไม่สามารถรับประกันได้ว่าผลลัพธ์จะเป็นไปตามตัวเลขที่ผ่านมา แต่อ้างอิงจากผลการทดสอบในอดีต ก็พอจะเห็นได้ว่า EA ตัวนี้มีศักยภาพและแนวโน้มที่ดีในอนาคต

2 【เปิดเผยผลลัพธ์จริง】NyaGrid ทำกำไรได้แค่ไหนกันแน่?

ต่อไปนี้คือผลการเทรดจริงจากการใช้งาน NyaGrid ในบัญชีเทรดจริง พร้อมเปิดเผยสภาพแวดล้อมในการใช้งานตามรายละเอียดด้านล่าง

ก่อนหน้านี้เคยมีการแสดงตัวอย่างการใช้งานด้วยเงินทุนจำนวนน้อย แต่ครั้งนี้เป็นกรณีที่ มีเงินทุนค่อนข้างเพียงพอและเผื่อไว้สำหรับการบริหารความเสี่ยง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มต้นใช้งาน EA อย่างจริงจัง สามารถใช้เป็นแนวทางในการวางแผนได้อย่างเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น

2-1. เริ่มต้นด้วยเงินทุน 3,920 (ประมาณ 70,000 บาท) → กำไร +0 (ประมาณ 34,900 บาท) ภายใน 7 เดือน

ผลการใช้งานของ NyaGrid ถูกเปิดเผยอย่างโปร่งใส โดยใช้บริการเผยแพร่ประวัติการเทรดจากบุคคลที่สามอย่าง “Myfxbook” เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือของข้อมูลการเทรด

เพื่อขจัดความกังวลว่า “เป็นการเทรดจริงหรือไม่?” หรือ “ข้อมูลเชื่อถือได้จริงหรือเปล่า?” เราจึงเลือกเปิดเผยผลการใช้งาน ในรูปแบบที่ทุกคนสามารถตรวจสอบได้อย่างเป็นกลางและโปร่งใส

มั่นใจได้เลย และสามารถดูข้อมูลการใช้งานจริงเป็นแนวทางได้

ด้านบนนี้คือผลการใช้งานจริงที่ฝังจาก Myfxbook

เราได้ทำการรัน EA พร้อมกันใน คู่สกุลเงิน AUDNZD และ EURGBP
การใช้หลายคู่เงินพร้อมกัน ช่วยกระจายความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้อย่างมั่นคงมากขึ้น

ส่วนที่มีการขาดทุนหนักในบางช่วงนั้น เกิดจาก ระหว่างการอัปเดตเวอร์ชันของ EA ได้เผลอปิดโพซิชันทั้งหมดของฝั่ง EURGBP โดยไม่ตั้งใจ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ไม่คาดคิดที่เกิดขึ้น

ผลกระทบนี้ทำให้กำไรจากฝั่ง EURGBP ที่ควรจะได้ ถูกรีเซ็ตกลางทาง…
อย่างไรก็ตาม ฝั่ง AUDNZD ยังคงทำงานได้อย่างราบรื่น และโดยรวมแล้ว กำไรก็ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างมั่นคง

※เหตุการณ์แบบนี้ก็เป็นหนึ่งในประสบการณ์จริงที่เกิดขึ้นได้ในการใช้งานจริง หวังว่าจะเป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์สำหรับคุณนะครับ (ยิ้มเจื่อน ๆ)

2-2. ตัวอย่างผลกำไร/ขาดทุนรายเดือน และช่วงขาดทุนสะสม (Drawdown)

ด้านล่างนี้คือผลการเทรดรายเดือน ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2024 ถึงเมษายน 2025 โดยใช้เงินเริ่มต้นจำนวน $1,920 (70,000 บาท)

※1. ผลจากการเทรดทองคำด้วยตัวเองในบัญชีเดียวกัน ขาดทุน -10,510บาท หากใช้เฉพาะ “NyaGrid” จะได้กำไร +3,586บาท
※2. ขาดทุนจากความล้มเหลวในการอัปเดตเวอร์ชัน EURGBP

ภายในระยะเวลา 7 เดือน ได้ผลกำไร +$612 (23,684 บาท) หรือประมาณ +50% ของเงินทุนเริ่มต้น

สำหรับช่วงขาดทุนสะสมสูงสุด (Drawdown) เคยแตะระดับ ประมาณ $577 (20,930 บาท) ในเดือนพฤศจิกายน 2024 แต่ในช่วงหลัง ๆ มานี้ ส่วนใหญ่อยู่ในระดับ ไม่เกิน $64 (2,330 บาท)

3. กลยุทธ์และหลักการทำงานของ NyaGrid

NyaGrid ได้รับการพัฒนาให้เป็น EA รูปแบบใหม่ที่ “พัฒนาไปอีกขั้น” จากกลยุทธ์พื้นฐานที่เรียกว่า “Trap Repeat” (หรือที่บางคนเรียกว่า Traripi) โดยเน้นการสร้างรายได้ที่มั่นคงแบบอัตโนมัติ โดยไม่ต้องพึ่งพาการตัดสินใจของมนุษย์

※「toraripi（Trap Repeat If Done）」 คือกลยุทธ์การเทรดแบบอัตโนมัติที่พัฒนาและจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าโดยบริษัทการลงทุนของญี่ปุ่นชื่อว่า Money Square
กลยุทธ์นี้มีชื่อเสียงในประเทศญี่ปุ่น มีผลงานที่พิสูจน์ได้ และได้รับความเชื่อมั่นในฐานะระบบเทรดอัตโนมัติที่น่าเชื่อถือเป็นอย่างยิ่ง

3-1. พื้นฐานคือกลยุทธ์ Traripi ที่ได้รับการพัฒนาให้ล้ำสมัยยิ่งขึ้น

โครงสร้างพื้นฐานใช้กลยุทธ์แบบ Half & Half

※กลยุทธ์ Half & Half:
กลยุทธ์ “Half & Half” เป็นหนึ่งในกลยุทธ์ของบริการเทรดอัตโนมัติ “Traripi” ที่พัฒนาโดยบริษัท Money Square จากประเทศญี่ปุ่น
กลยุทธ์นี้แบ่งช่วงราคาที่ตั้งไว้ล่วงหน้า (เรียกว่าเรนจ์) ออกเป็น 2 ส่วน
ในครึ่งบนของเรนจ์ จะตั้งคำสั่งขาย (Sell)
ในครึ่งล่างของเรนจ์ จะตั้งคำสั่งซื้อ (Buy)
แนวคิดนี้ช่วยให้สามารถสร้างคำสั่งซื้อขายอย่างสมดุลเมื่อราคาผันผวน และมุ่งหวังผลกำไรอย่างมั่นคงในระยะยาว

กลยุทธ์นี้มีจุดเด่นที่การตั้งช่วงราคาสำหรับการซื้อและขายแยกกัน และทำกำไรจากการเคลื่อนไหวขึ้นลงเล็กน้อยภายในช่วงราคานั้นแบบไป-กลับ
แต่อย่างไรก็ตาม หากใช้เพียงระบบกับดักแบบง่าย ๆ จะพบกับปัญหาต่อไปนี้

• หากวางออเดอร์ด้วยล็อตเท่าเดิมและกำไรเป้าหมายเท่ากันทั้งหมด จะไม่มีประสิทธิภาพ
• หากไม่ปรับแต่งกลยุทธ์ให้เหมาะสม จะมีการยิงออเดอร์เปล่าในช่วงราคาที่ไม่มีความเคลื่อนไหว
• หากราคาเคลื่อนออกนอกกรอบที่กำหนด อาจเกิดการขาดทุนอย่างรวดเร็ว

NyaGrid ได้ติดตั้งฟังก์ชันการปรับปรุง ดังต่อไปนี้ เพื่อตอบโจทย์ปัญหาเหล่านี้

ด้วยเหตุนี้ NyaGrid จึงกลายเป็น EA เทรดอัตโนมัติที่ “ลดความเสี่ยงพร้อมกับเพิ่มประสิทธิภาพในการทำกำไรให้สูงสุด” ซึ่งเหมาะสำหรับการใช้งานระยะยาว โดยผสานความมั่นคงและผลการดำเนินงานที่ยอดเยี่ยมเข้าด้วยกัน

3-2. เหตุผลที่เลือกคู่สกุลเงิน: ทำไมต้องเป็น AUD/NZD?

สาเหตุที่ NyaGrid เน้นเทรดคู่เงิน AUD/NZD (ดอลลาร์ออสเตรเลีย / ดอลลาร์นิวซีแลนด์) นั้นมีเหตุผลที่ชัดเจน

ข้อมูลย้อนหลัง 10 ปี ยืนยันแล้วว่า “คู่เงินเรนจ์ในอุดมคติ”

• AUD/NZD เป็นคู่เงินที่อยู่ในกลุ่ม “เรนจ์อย่างมาก” โดย มีการเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบราคาที่ค่อนข้างคงที่ (ประมาณ 1.04～1.12) มาอย่างต่อเนื่องนานกว่า 10 ปี
• เมื่อสร้างกราฟฮิสโตแกรม (กราฟแสดงความถี่ของช่วงราคา) จะพบว่า บริเวณราวๆ 1.075 มีการกระจุกตัวเป็นรูปภูเขา ซึ่งแสดงให้เห็นว่าราคามีการเคลื่อนไหวและคงอยู่ในช่วงนี้มากที่สุดอย่างชัดเจน
• นั่นหมายความว่า กลยุทธ์กริดแบบกระจาย (Distribution Grid Strategy) ซึ่งเน้นการวางโพสิชันในช่วงกลางของกรอบราคา มีความเหมาะสมอย่างยิ่งกับคู่เงินนี้

นอกจากนี้ AUD และ NZD ยังมีความใกล้ชิดกันทั้งในด้านภูมิศาสตร์และเศรษฐกิจ อัตราดอกเบี้ยนโยบายก็มีความคล้ายคลึงกัน ทำให้ เป็นคู่สกุลเงินที่เคลื่อนไหวในกรอบได้ง่ายและมีความมั่นคงสูง

กลยุทธ์กริดแบบกระจายที่ลดช่วงการเทรดให้แคบลง

จุดเด่นที่แท้จริงของ NyaGrid คือ กลยุทธ์กริดแบบกระจายที่เน้นเปิดออเดอร์ในช่วงราคาที่เกิดขึ้นบ่อยที่สุด

โดยทั่วไปแล้ว กลยุทธ์กริดมักจะเป็นการตั้งออเดอร์ในช่วงราคาที่มีระยะห่างเท่ากันแบบอัตโนมัติ แต่กลยุทธ์กริดแบบกระจายนี้คือ วิธีการเทรดกริดที่ปรับระยะห่างของออเดอร์ให้เหมาะสมตามความถี่ของราคาที่เกิดขึ้น (จากฮิสโตแกรมหรือการกระจายของราคา) ซึ่งกลยุทธ์ที่คล้ายกันคือกลยุทธ์เพชรของทราเลปิ (Traripi)

ฟังก์ชันกลยุทธ์กริดแบบกระจาย: เน้นเปิดออเดอร์กระจุกตัวบริเวณกึ่งกลางของช่วงราคา

• ตั้งค่าช่วงราคาโดยแบ่งออกเป็น 4 โซน
• บริเวณใกล้กึ่งกลางของช่วงราคา จะตั้งให้ระยะห่างระหว่างออเดอร์แคบลง เพื่อเพิ่มจำนวนออเดอร์
• ซึ่งจะทำให้ มีการซื้อขายมากที่สุดในช่วงราคาที่มีความผันผวนสูง และทำให้รอบของการเปิดและปิดออเดอร์ (การเข้าออเดอร์→ทำกำไร) เกิดขึ้นได้เร็วขึ้น

ผลลัพธ์คือ เมื่อเปรียบเทียบกับการไม่ใช้กลยุทธ์กริดแบบกระจาย จำนวนการเทรดจะเพิ่มขึ้น และผลตอบแทนรายปีสูงกว่าเดิมถึง 2 เท่า

3-4. การบริหารพอร์ตแบบดอกเบี้ยทบต้น

NyaGrid ใช้รูปแบบการบริหารพอร์ตแบบ ดอกเบี้ยทบต้น โดยนำกำไรที่ได้รับจากการเทรดครั้งก่อน มาใช้ต่อในการเทรดครั้งถัดไปโดยอัตโนมัติ

ดอกเบี้ยทบต้น คือระบบที่นำกำไรที่ได้ในแต่ละครั้งไปเพิ่มเข้าในเงินต้น แทนที่จะถอนออก ซึ่งจะทำให้ ได้กำไรเพิ่มขึ้นจาก “เงินต้น + กำไร” ในแต่ละรอบ

ตัวอย่างเช่น หากคุณลงทุน 7,000 บาท ด้วยผลตอบแทนรายปี 50% หลังจาก 1 ปี จะกลายเป็น 10,500 บาท และในปีถัดไป จะได้ผลตอบแทน 50% จาก 10,500 บาท ทำให้กลายเป็นประมาณ 15,750 บาท

ด้วยเหตุนี้ เมื่อดำเนินการลงทุนต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ กำไรที่เพิ่มขึ้นก็จะได้รับผลตอบแทนด้วยเช่นกัน ซึ่งทำให้ ยิ่งเวลาผ่านไป เงินทุนก็ยิ่งเติบโตเร็วขึ้นเรื่อย ๆ

NyaGrid ใช้พลังของดอกเบี้ยทบต้นอย่างเต็มที่ และ ในระยะยาว การเติบโตจาก 7,000 บาท → 2,270,000 บาท ก็ไม่ใช่ความฝัน เพราะระบบถูกออกแบบมาเพื่อสร้างทรัพย์สินได้ในระดับนี้

3-5. ทำไม NyaGrid ถึงมีโอกาสชนะในการเทรดสูงกว่าระบบอื่น?

เหตุผลที่ NyaGrid สามารถทำกำไรได้อย่างมั่นคง ไม่ใช่แค่เพราะใช้ “กลยุทธ์ทราเลปิ” เท่านั้น แต่เพราะมันถูกออกแบบมาให้ชนะได้ ด้วยการ วางออเดอร์ไว้ในตำแหน่งที่ราคามักจะมา และทำกำไรจากจุดที่ราคามักจะเคลื่อนไหวบ่อย

โครงสร้างการชนะที่ได้มาจากการวิเคราะห์กราฟย้อนหลัง 10 ปี

• นำข้อมูลกราฟราย 1 ชั่วโมงของคู่เงิน AUD/NZD ตลอดระยะเวลา 10 ปี มาทำเป็นฮิสโตแกรม เพื่อ ระบุโซนที่ราคาค้างอยู่บ่อยที่สุด (บริเวณกึ่งกลาง)
• เมื่อวางออเดอร์ให้กระจุกตัวในโซนนั้น จะช่วย ยกระดับทั้งอัตราการเปิดออเดอร์ ความถี่ในการหมุนเวียน และอัตราการทำกำไร

การนำกลยุทธ์แบบนี้มาใช้ ทำให้ NyaGrid กลายเป็น EA ที่พัฒนามาเฉพาะสำหรับระบบเทรดอัตโนมัติประเภทกริด โดยผสมผสาน “กลยุทธ์ × สถิติ × ระบบอัตโนมัติ” เข้าด้วยกันอย่างลงตัว

4. จะใช้ NyaGrid ต้องเตรียมอะไรบ้าง? สิ่งที่จำเป็นสำหรับการเริ่มต้น

NyaGrid เป็น EA ที่มีกลยุทธ์ขั้นสูงในการเทรด แต่ขั้นตอนการใช้งานนั้นเรียบง่ายมาก สิ่งที่คุณต้องเตรียมมีเพียงไม่กี่อย่าง ได้แก่ MT4 (MetaTrader 4), บัญชี Ultra Low ของ XM, เงินทุนและการตั้งค่า Lot ตามที่แนะนำ และหากเป็นไปได้ แนะนำให้ใช้ VPS เพื่อให้ระบบทำงานได้อย่างต่อเนื่องและมีเสถียรภาพ

4-1. จำเป็นต้องเปิดบัญชีเทรดกับโบรกเกอร์ต่างประเทศที่รองรับ MT4 (เช่น XM)

NyaGrid เป็น EA ที่ถูกพัฒนาขึ้นสำหรับใช้กับโบรกเกอร์ FX ต่างประเทศที่รองรับ MT4 โดยเฉพาะ และในบรรดาโบรกเกอร์ทั้งหมด บัญชี Ultra Low ของ XM เป็นตัวเลือกที่แนะนำอย่างยิ่ง ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้

• ไม่มีค่าสวอป (Swap Point) : เหมาะมากกับกลยุทธ์ทราเลปิที่เน้นถือออเดอร์ระยะยาว (แต่บางคู่เงินอาจยังมีค่าสวอปอยู่บ้าง)
• รองรับสูงสุด 200 ออเดอร์ : เข้ากันได้ดีกับ EA ประเภทกริดที่มักมีการเปิดออเดอร์จำนวนมาก
• เลเวอเรจสูงสุด 1:1000 และระดับรักษายอดมาร์จิ้นที่ 20% : ช่วยให้สามารถเริ่มต้นเทรดด้วยเงินทุนที่ไม่สูงมาก
• รองรับระบบ Zero Cut : แม้เกิดการร่วงหนักของตลาด ก็ไม่มีความเสี่ยงที่จะเป็นหนี้

โดยเฉพาะค่าสวอปนั้น ส่งผลอย่างมากต่อผลกำไรและขาดทุน ดังนั้น การไม่มีค่าสวอปจึงถือเป็นเงื่อนไขที่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับสภาพแวดล้อมในการเทรด

4-2. เงินทุนและการตั้งค่า Lot ที่แนะนำ

NyaGrid (เวอร์ชันกลยุทธ์เพชร) สามารถสร้างกำไรได้มาก แต่ก็มี Drawdown ในระดับหนึ่งเช่นกัน

สิ่งสำคัญคือ อย่ารีบร้อนตั้งแต่เริ่มแรก ควรเริ่มต้นจากขนาดเล็กก่อน แล้วค่อย ๆ ปรับเพิ่ม Lot หรือเพิ่มคู่เงินทีหลังเมื่อคุณเริ่มคุ้นเคยกับการทำงานของ EA

4-3. การมี VPS จะช่วยให้สบายใจมากขึ้น

NyaGrid เป็น EA ที่จะแสดงประสิทธิภาพสูงสุดเมื่อรันตลอด 24 ชั่วโมง ดังนั้น การมีสภาพแวดล้อมที่สามารถเปิด MT4 ได้ตลอดเวลา (เช่น VPS) จะช่วยให้มั่นใจและปลอดภัยมากขึ้น

VPS ที่เหมาะสำหรับ MT4 เช่น KAMATERA เป็นตัวเลือกที่แนะนำสำหรับผู้เริ่มต้นใช้งาน

5. 【คำอธิบาย XM】ทำไมบัญชีนี้ถึงเหมาะสมที่สุดสำหรับ NyaGrid

เพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์จาก EA เทรดอัตโนมัติ “NyaGrid” ได้อย่างเต็มที่ การเลือกบัญชี FX ที่จะใช้เทรดจึงเป็นเรื่องสำคัญมาก ในบรรดาโบรกเกอร์ต่างประเทศรายใหญ่ “XM” ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางว่าเป็นโบรกเกอร์ที่เข้ากันได้ดีกับ NyaGrid บทความนี้จะอธิบายเหตุผลในมุมมองต่าง ๆ อย่างละเอียด

5-1. ข้อมูลพื้นฐานและความปลอดภัยของ XM

XM ก่อตั้งขึ้นในปี 2009 เป็นโบรกเกอร์ที่มีความน่าเชื่อถือสูง ปัจจุบันให้บริการในกว่า 190 ประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย และมีลูกค้ามากกว่า 15 ล้านคนใช้บริการ

• ปีที่ก่อตั้ง: 2009
• บริษัทผู้ดำเนินการ: XM Global Limited
• ใบอนุญาตทางการเงิน: Financial Services Commission (FSC)
• การสนับสนุนภาษาไทย: มีให้บริการทั้งทางอีเมลและแชทสด ในวันจันทร์ถึงศุกร์ เวลา 9:00 – 17:00

เนื่องจากมีการสนับสนุนภาษาไทยอย่างครบครัน ทำให้ผู้ที่ไม่ถนัดภาษาอังกฤษก็สามารถใช้งานได้อย่างมั่นใจ ซึ่งถือเป็นข้อดีที่ช่วยสร้างความอุ่นใจให้กับมือใหม่เป็นอย่างมาก

นอกจากนี้ ด้วยการบริหารเงินทุนแยกส่วน ทำให้เงินทุนของลูกค้าได้รับการดูแลแยกจากเงินทุนของบริษัทผู้ให้บริการ ซึ่งช่วยให้การดำเนินงานมีความโปร่งใสสูง

5-2. ความสบายใจจากระบบ Zero Cut ที่ไม่มีการเรียกเติมเงินเพิ่ม

ใน XM ทุกประเภทบัญชีจะมีระบบ “Zero Cut” ซึ่งหมายความว่า หากเกิดความผันผวนของตลาดอย่างรวดเร็วจนการตัดขาดทุน (Loss Cut) ไม่ทัน และเกิดขาดทุนเกินเงินประกัน (Margin) ระบบจะไม่เรียกให้เติมเงินเพิ่ม (การเรียกเก็บเงินประกันเพิ่ม) แก่ลูกค้า

เนื่องจาก EA ประเภททราเลปิจะมีการถือออเดอร์จำนวนมาก จึงมักมีความเสี่ยงเรื่อง Drawdown สูงในช่วงที่ตลาดผันผวนอย่างรวดเร็ว แต่ถ้ามีระบบ Zero Cut ก็จะช่วยให้ ไม่ต้องกังวลว่าจะเป็นหนี้จากความเสียหายที่ไม่คาดคิด

5-3. 【สำคัญ】บัญชี Ultra Low ไม่มีค่าสวอป

สำหรับ EA อย่าง NyaGrid ที่ถือออเดอร์ในระยะยาว ผลกระทบจากค่าสวอปที่เกิดขึ้นในแต่ละวันไม่สามารถมองข้ามได้ โดยเฉพาะคู่เงินที่มีค่าสวอปติดลบทั้งฝั่งซื้อและขาย เช่น AUD/NZD ซึ่งอาจเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้กำไรลดลงมากในการใช้งานระยะยาว

บัญชี Ultra Low ของ XM ไม่มีค่าสวอป ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่หายากมากทั้งในประเทศและต่างประเทศ และเข้ากันได้อย่างยอดเยี่ยมกับ EA ประเภททราเลปิ (※หมายเหตุ: มีคู่เงินบางคู่ที่ยังมีค่าสวอปเกิดขึ้น)

จากการทดสอบย้อนหลังที่ดำเนินการโดยไม่มีค่าสวอป พบว่าในระยะเวลา 10 ปี มีกำไรเพิ่มขึ้นประมาณ $6,090 (220,930 บาท) ซึ่งผลลัพธ์นี้แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมอย่างยิ่ง

5-4. จำนวนโพซิชันสูงสุด 200 ตำแหน่ง

ใน XM ได้ออกแบบให้บัญชีหนึ่งสามารถถือโพซิชันได้สูงสุดถึง 200 ตำแหน่งอย่างสบาย ๆ โดย NyaGrid ถูกออกแบบให้กระจายโพซิชันเป็นหลัก จึงจำเป็นต้องถือโพซิชันจำนวนมากพร้อมกันเพื่อการทำงานที่มีประสิทธิภาพ

ดังนั้น โบรกเกอร์ที่จำกัดจำนวนโพซิชันต่ำ อาจทำให้กลยุทธ์ไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ แต่กับ XM คุณสามารถ สร้างโพซิชันตามกลยุทธ์ได้อย่างมั่นใจ

นอกจากนี้ สภาพแวดล้อมการทำงานจริงก็ลื่นไหลดีมาก และความเร็วในการส่งคำสั่งซื้อขายของ MT4/MT5 ก็ถือเป็นหนึ่งในระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรม

5-5. ความแตกต่างจากโบรกเกอร์ FX ต่างประเทศรายอื่น ๆ

เมื่อเปรียบเทียบระหว่าง XM กับโบรกเกอร์รายใหญ่รายอื่น ๆ เราได้รวบรวมจุดที่แตกต่างกันในมุมมองของการใช้งาน NyaGrid ไว้ในตารางเปรียบเทียบจุดสำคัญดังนี้

จากการเปรียบเทียบนี้ บัญชี Ultra Low ของ XM มีจุดเด่นที่สเปรดแคบ ค่าคอมมิชชั่นฟรี และไม่มีค่าสวอป

นอกจากนี้ เลเวอเรจสูงสุดที่ 1,000 เท่า และเงินฝากขั้นต่ำเพียง 5 ดอลลาร์ ทำให้บัญชีนี้เหมาะกับนักเทรดทุกระดับ ตั้งแต่ผู้เริ่มต้นจนถึงมืออาชีพ อีกทั้งยังมีโบนัสสำหรับการเปิดบัญชีซึ่งเป็นจุดดึงดูดอีกด้วย

หมายเหตุ: สเปรดเป็นแบบลอยตัว โดยอาจแตกต่างกันตามสภาพแวดล้อมการเทรดและช่วงเวลาการซื้อขาย

เมื่อพิจารณาจาก ไม่มีค่าสวอป จำนวนโพซิชันสูง และการสนับสนุนลูกค้า แล้ว บัญชี Ultra Low ของ XM ถือเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมโดยรวมสำหรับ EA ประเภททราเลปิ

6. วิธีเริ่มต้นกับ XM

เมื่อได้ยินคำว่า “บัญชีต่างประเทศ” อาจรู้สึกว่ายากหรือซับซ้อน แต่ไม่ต้องกังวลเลย ขั้นตอนการเปิดบัญชีแทบไม่ต่างจากบัญชีในประเทศไทย

6-1. ขั้นตอนการเปิดบัญชี

การเปิดบัญชีกับ XM ดำเนินการตามขั้นตอนดังต่อไปนี้

STEP1

เข้าสู่เว็บไซต์ทางการของ XM

คลิกปุ่ม “เปิดบัญชี” จากแบนเนอร์หรือหน้าหลักของเว็บไซต์

STEP2

สร้างบัญชีผู้ใช้งาน

กรอกข้อมูลเช่น ประเทศที่พำนัก และอีเมลแอดเดรส

STEP3

กรอกข้อมูลจากลิงก์ในอีเมลที่ได้รับ

กรุณากรอกชื่อ ที่อยู่ อีเมล และข้อมูลการลงทุนต่างๆ

STEP4

อัปโหลดเอกสารยืนยันตัวตน

ส่งเอกสารยืนยันตัวตน เช่น บัตรประชาชน ใบขับขี่ หรือพาสปอร์ต พร้อมเอกสารยืนยันที่อยู่

STEP5

รับอีเมลยืนยันการเปิดบัญชี

เมื่อการตรวจสอบเสร็จสิ้น จะได้รับข้อมูลสำหรับเข้าสู่ระบบ

STEP6

ฝากเงินและเริ่มต้นเทรด

สามารถฝากเงินผ่าน Skrill หรือโมบายแบงก์กิ้ง แล้วเริ่มต้นเทรดได้ทันที

การเปิดบัญชีสามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วย เพียงโทรศัพท์มือถือเครื่องเดียว โดยไม่ต้องทำขั้นตอนซับซ้อนเพิ่มเติม สำหรับขั้นตอนการเปิดบัญชีอย่างละเอียด กรุณาดูได้จากบทความด้านล่างนี้

6-2. วิธีฝากเงินและแนะนำการใช้ Skrill

XM มีวิธีฝากเงินหลายแบบ แต่ที่แนะนำเป็นพิเศษคือ Skrill

ขั้นตอนการฝากเงินก็ง่ายมาก

1. เข้าสู่ระบบในหน้าสมาชิกของ XM
2. เลือก “Skrill” ในส่วนของ “ฝากเงิน”
3. กรอกจำนวนเงินที่จะฝากและอีเมลที่ลงทะเบียนกับ Skrill จากนั้นดำเนินการตามขั้นตอน
4. ระบบจะพาไปยังหน้าล็อกอินของ Skrill เพื่อทำการชำระเงินให้เสร็จสมบูรณ์

6-3. เลือกสเปรด ค่าคอมมิชชั่น และประเภทบัญชี

ใน XM มีบัญชีให้เลือกทั้งหมด 4 ประเภท รวมถึงบัญชี Ultra Low ด้วย

สำหรับการใช้งาน NyaGrid จำเป็นต้องใช้บัญชี Ultra Low เป็นหลัก แต่เรามาดูคุณสมบัติของบัญชีแต่ละประเภทกันก่อน

7. คู่มือการติดตั้ง NyaGrid: ตั้งค่า ติดตั้ง และการใช้งาน

ต่อไปนี้จะเป็นการอธิบายวิธีการติดตั้ง NyaGrid

7-1. ต่อไปนี้จะเป็นการอธิบายวิธีการติดตั้ง NyaGrid

STEP1

ดาวน์โหลด NyaGrid

ดาวน์โหลด NyaGrid ได้จากที่นี่

STEP2

คลิกขวาที่ไฟล์ zip ที่ดาวน์โหลดมา แล้วเลือก “แยกไฟล์ทั้งหมด”

STEP3

ติดตั้งลงใน MT4

เปิด MT4 แล้วคลิกที่เมนูไฟล์ จากนั้นเปิดโฟลเดอร์ข้อมูล (Data Folder)

เปิดโฟลเดอร์ตามที่เลือกในภาพ แล้วนำไฟล์ที่เพิ่งแตกไฟล์ (unzip) ไปใส่ในโฟลเดอร์ Experts

STEP4

คลิกขวาที่ Symbol ใน MT4 แล้วเลือก “Show All”

STEP5

คลิกขวาที่คู่เงิน AUDNZD แล้วเลือกแสดงกราฟ

คลิกขวาที่คู่เงิน “AUDNZD” ในช่องรายการคู่เงิน แล้วเลือก “แสดงกราฟ”

STEP6

คลิกขวาที่ Expert Advisors ในหน้าต่าง Navigator แล้วเลือกรีเฟรช

STEP7

เมื่อเห็น NyaGrid ปรากฏขึ้น ให้ลากแล้ววางลงบนกราฟ

7-2. การตั้งค่าเริ่มต้นและการปรับขนาดล็อตพื้นฐาน

ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนการตั้งค่าเริ่มต้น แต่มีเพียงจุดเดียวที่ต้องแก้ไข

ปิดการใช้งาน “Enable all-close function”

ให้ปิดการใช้งานฟังก์ชัน “ปิดออเดอร์ทั้งหมด” ในกรอบสีแดงด้านล่างนี้
หากไม่ตั้งค่านี้ EA จะไม่สามารถทำงานได้ กรุณาปิดการใช้งานที่นี่ก่อน แล้วกด “ตกลง”

ถ้ามีข้อความดังต่อไปนี้ปรากฏที่มุมซ้ายบนของกราฟ แสดงว่า EA ทำงานอย่างถูกต้องแล้ว

7-3. วิธีการใช้งาน VPS เพื่อให้ระบบทำงานตลอด 24 ชั่วโมง

หากต้องการใช้งาน NyaGrid อย่างจริงจัง การใช้ VPS (เซิร์ฟเวอร์ส่วนตัวเสมือน) ถือเป็นสิ่งจำเป็น เนื่องจากการรัน MT4 บนคอมพิวเตอร์ที่บ้านต้องเปิดเครื่องตลอดเวลา รักษาเสถียรภาพของอินเทอร์เน็ต และเตรียมพร้อมรับมือกับปัญหาไฟดับหรือการขัดข้องของเครือข่าย ซึ่งเป็นความเสี่ยงและภาระที่ค่อนข้างสูง

การใช้ VPS จะช่วยแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้ ทั้งหมด

VPS ที่แนะนำและวิธีการเลือก

VPS ที่ใช้งานง่ายสำหรับมือใหม่และเหมาะสมกับการเทรดอัตโนมัติ เช่น

• KAMATERA
• Vultr
• ishosting

ตัวอย่างเช่น
เมื่อต้องเลือก VPS ควรเลือกที่รองรับ Windows (สามารถรัน MT4 ได้) มีหน่วยความจำอย่างน้อย 2GB และค่าบริการรายเดือนควรอยู่ในช่วงประมาณ $5 ถึง $15

VPSの導入手順

1. สมัครใช้บริการ VPS
2. เชื่อมต่อด้วยฟังก์ชัน Remote Desktop ของ Windows
3. ติดตั้ง MT4 ลงใน VPS
4. ตั้งค่าและติดตั้ง NyaGrid
5. จากนั้นก็ปล่อยให้ทำงานเองได้เลย!

เราสามารถช่วยเหลือขั้นตอนรายละเอียดเพิ่มเติมได้ภายหลัง ดังนั้นไม่ต้องกังวลนะครับ/ค่ะ!

7-4. ข้อควรระวังเพื่อการใช้งานที่ปลอดภัย

เพื่อให้การใช้งาน NyaGrid มีความเสถียร ควรระวังข้อควรปฏิบัติดังต่อไปนี้

① เมื่ออัปเดตเวอร์ชัน ให้ปิดการใช้งานฟังก์ชัน “ปิดออเดอร์ทั้งหมด”

เมื่อทำการอัปเดตเวอร์ชัน EA (เครื่องมือเทรดอัตโนมัติ) หากตั้งค่า “ปิดออเดอร์ทั้งหมด” ไว้ในสถานะเปิดอยู่ ไม่ว่าจะมีกำไรหรือติดขาดทุน ออเดอร์ทั้งหมดจะถูกปิดโดยอัตโนมัติ

เพื่อป้องกันปัญหานี้ ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่า ปิดฟังก์ชัน “ปิดออเดอร์ทั้งหมด” ก่อนทำการอัปเดตเวอร์ชัน

② เมื่อเกิดปัญหากับคอมพิวเตอร์หรือ VPS ให้ทำการ รีสตาร์ทเครื่องและเปิด MT4 ใหม่

หากคอมพิวเตอร์หรือ VPS (เซิร์ฟเวอร์เสมือน) ค้าง ระบบ EA ก็จะหยุดทำงานและไม่สามารถเทรดได้ ในกรณีเช่นนี้ สามารถกู้คืนระบบได้โดย รีสตาร์ทคอมพิวเตอร์หรือ VPS → เปิด MT4 ขึ้นมาใหม่ → เริ่มใช้งาน EA อีกครั้ง อย่างไรก็ตาม การใช้ VPS จะมีปัญหาน้อยกว่าคอมพิวเตอร์ทั่วไป จึงทำให้มั่นใจได้มากขึ้น

③ เมื่อทำการตั้งค่า EA ใหม่ ต้องระวัง “Magic Number”

มื่ออัปเดตเวอร์ชัน EA หรือทำการรีเซ็ต (แนบใหม่) บน MT4 อาจมีกรณีที่ ค่าพารามิเตอร์การตั้งค่าถูกรีเซ็ตเป็นค่าเริ่มต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สิ่งสำคัญคือ Magic Number ซึ่งเป็นหมายเลข ID ที่ใช้ระบุโพซิชันที่ EA ดูแล หากถูกรีเซ็ต หมายเลขนี้จะเปลี่ยนแปลง ทำให้โพซิชันถูกจัดการแยกกัน และอาจทำให้เกิดข้อผิดพลาดในการเทรดโดยไม่ได้ตั้งใจ

เมื่อทำการรีเซ็ต EA อย่าลืมที่จะ ตั้งค่า Magic Number ที่ตั้งค่าไว้ตั้งแต่แรกใหม่อีกครั้ง

8. คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

บทสรุป

ในบทความนี้ เราได้แนะนำรายละเอียดเกี่ยวกับ NyaGrid ทั้งจุดเด่น ผลการใช้งาน และวิธีการติดตั้งอย่างครบถ้วน

• อยากหยุดชีวิตที่ต้องเฝ้าหน้าจอตลอดเวลา จนรู้สึกเหนื่อยล้า
• อยากมีอิสระจากความเครียดในการเทรด และได้เวลาคืนมามากขึ้น
• ถ้าจะเทรด Forex ทั้งที ก็อยากสร้างทรัพย์สินให้เติบโตอย่างมั่นคง

หากคุณมีความรู้สึกแบบนั้น NyaGrid อาจเป็น EA ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณ

และที่สำคัญ EA ตัวนี้ไม่ใช่แค่ระบบเทรดอัตโนมัติธรรมดาเท่านั้น

ได้รับการปรับแต่งมาเพื่อให้สะสมทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้จะเริ่มต้นด้วยเงินจำนวนน้อย

มาเริ่มต้นจากการเตรียมสภาพแวดล้อมให้พร้อมกันก่อน!

หลายคนอาจยังรู้สึกไม่มั่นใจว่า “ระบบนี้จะเวิร์กจริงไหม?” หรือ “กลัวที่จะฝากเงินจริงตั้งแต่แรกเริ่ม…” สำหรับใครที่รู้สึกแบบนี้ ขอแนะนำให้ เปิดบัญชีกับ XM แล้วทดลองใช้งานผ่านบัญชีเดโม หรือใช้เงินทุนน้อย ๆ เพื่อทดสอบระบบดูก่อน นี่ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ปลอดภัยและเหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น

ขั้นตอนง่ายมาก

ขั้นตอนการใช้งาน NyaGrid กับบัญชีจริงมีดังนี้

“พยายามเทรดเองเท่าไรก็ไม่ค่อยได้ผลลัพธ์”
“อยากได้ระบบที่ช่วยทำกำไรได้อย่างมั่นคงและอัตโนมัติ”

ถ้าคุณรู้สึกแบบนี้แม้เพียงเล็กน้อย ขอแนะนำให้ลองใช้ NyaGrid ดูสักครั้ง